HATSUNE MIKU
HATSUNE MIKU ชื่อของเธอ มาจาก คำว่า ฮัทสึ Hatsu
(แรก) , เนะ Ne
(เสียง) และ มิคุ Miku (อนาคต) รวมเป็น ฮัทสึเนะ มิคุ รวมๆ ก็เป็น ” เสียงแรกของ
อนาคต ” ซึ่งเสียงของเธอเลียนแบบมาจาก ซากิ ฟูจิตะ
นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ 31 Aug 2007
ฮัทสึเนะ มิคุ ปรากฏตัวในมังงะ ชื่อ Maker Hikōshiki Hatsune Mix ใน manga magazine และ Comic Rush วันที่ 26 Nov 2007 จัดจำหน่ายโดย Jive มังงะนี้วาดโดย Kei , ผู้ออกแบบต้นตำรับ ของ
ฮัทสึเนะ มิคุ มังงะที่ 2 ชื่อ Hachune Miku no Nichijō Roipara ! วาดโดย
Ontama ใน Comp Ace เมื่อ 26
Dec 2007จัดจำหน่ายโดย Kadokawa Shoten
เมื่อ Hatsune Miku ซึ่งเป็น มาสคอตของ CV รุ่นแรกใน Vocaloid 2
ได้รับความนิยมเป็นพลุแตกจากความน่ารักของเธอ ทำให้มีคนนิยมหันมาใช้โปรแกรมนี้กันมากขึ้น
ได้รับความนิยมเป็นพลุแตกจากความน่ารักของเธอ ทำให้มีคนนิยมหันมาใช้โปรแกรมนี้กันมากขึ้น
Vocaloid
2 โปรแกรมนี้ไม่ได้เป็นเกมนะ
แล้วก็ไม่เชิงจะเป็นโปรแกรมใช้งานสักเท่าไหร่ (หาประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้)
หน้าที่หลักๆของโปรแกรมคือให้เราสามารถแต่งเสียงร้อง
ของคนได้ตามที่ต้องการ(โดยมีพื้นฐานเป็นเสียงญี่ปุ่น ) การทำงานคล้ายๆกับ Flash
แต่ว่าให้เราแต่งเสียงแทนรูปภาพนั่นเอง โดยชื่อ Hatsune Miku
นั้นเป็นชื่อของเสียงสาวน้อยสำเนียงญี่ปุ่นที่อยู่ใน
โปรแกรมนี้นั่นเอง (นอกจาก Hatsune Miku แล้วยังมีคนอื่นๆอีกมากมายนะ
แต่ที่ดังที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Hatsune Miku)
โดยเราจะสามารถกำหนดให้เธอร้องเป็นคำต่างๆได้ตามที่ต้องการ กำหนด Tempo
จังหวะ ระดับเสียงและเนื้อร้องต่างๆ โดยใน Vocaloid2 นี้สามารถปรับรายละเอียดในส่วนย่อยๆได้อีกด้วย เช่น ระดับการหายใจ
อารมณ์ของนักร้อง ซึ่งแม้จะเป็นคำร้อง และระดับเนื้อเดียวกัน
ก็สามารถแสดงออกมาเป็นคำร้องที่แตกต่างกันได้อีกด้วย
ซึ่งทำให้เสียงที่ออกมามีความเสมือนจริงมากขึ้น
โปรแกรม Vocaloid เป็น Virtual Vocalist ซึ่งเป็น Singing Synthesis Technology …
เพียงเราใส่โน๊ตเข้าไป (ผ่าน format MIDI) แล้วใส่เนื้อร้องเข้าไป เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งตัวโปรแกรมมันจะไปแปลงเป็น phoneme ให้เรา
(Phoneme คือ หน่วยเสียงที่ย่อยที่สุดในการออกเสียงที่ใช้แยกความแ ตกต่างของการออกเสียงแต่ละคำ) …
เท่านี้เองโปรแกรมก็สามารถร้องออกมาเป็นเพลงให้เราฟังได้แล้ว (สามารถ export ออกมาเป็น wave format ได้)
ลิงค์ต้นฉับบ : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=275438694f9551adเพียงเราใส่โน๊ตเข้าไป (ผ่าน format MIDI) แล้วใส่เนื้อร้องเข้าไป เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งตัวโปรแกรมมันจะไปแปลงเป็น phoneme ให้เรา
(Phoneme คือ หน่วยเสียงที่ย่อยที่สุดในการออกเสียงที่ใช้แยกความแ ตกต่างของการออกเสียงแต่ละคำ) …
เท่านี้เองโปรแกรมก็สามารถร้องออกมาเป็นเพลงให้เราฟังได้แล้ว (สามารถ export ออกมาเป็น wave format ได้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น